ถ้ารูปเดิมใน Active Voice มีกรรม 2 ตัว (double objects) ก็สามารถใช้เป็นรูป Passive Voiceได้ 2 แบบ เช่น ตัวอย่างประโยคที่ 1 แบบที่ 1 He was given some salt by the cook. (ใช้กรรมรองเป็นประธาน) แบบที่ 2 Some salt was given to him by the cook. (ใช้กรรมตรงเป็นประธาน) Active Voice (ของ 2 ประโยคข้างต้น) คือ The cook gave ตัวอย่างประโยคที่ 2 We were shown the museum. (by someone) The museum was shown to us. (by someone) Active Voice (ของ 2 ประโยคข้างต้น) คือ Someone showed ข้อสังเกต ตามความนิยม จะใช้กรรมรอง (หมายถึงบุคคล) มาเป็นประธาน ถ้าในActive Voice มีรูปกริยาดังต่อไปนี้ think, consider, acknowledge, know, say, report, understand, claim, believe, fear, hope, feel, find เช่น People think that we are flexible. People know he is impulsive ประโยคเช่นนี้สามารถใช้โครงสร้าง Passive ได้ 2 แบบ คือ แบบที่ 1 ใช้ it เป็นประธาน เช่น It is thought that we are flexible. It i s known he is impulsive แบบที่ 2 เอาข้อความข้างหลังย้ายมาข้างหน้า และตามด้วย to be + adjective เช่น We are thought to be flexible. He is known to be impulsive หมายเหตุ ถ้าใน Active Voice มี Infinitive without to ต้องเปลี่ยนเป็น Infinitive (ที่มี to) ในPassive Voice เว้นคำว่า let เช่น Active Voice Passive Voice I watched him leave.
He was watched to leave. They made us work hard We were made to work hard He let me go I was let go การเติม by เราจะเติม by เพื่อแสดงว่าใครเป็นผู้ทำกริยานั้น เช่น I was bitten by his dog. (ถ้าไม่ใส่ by his dog ก็ไม่รู้ว่าถูกกัดโดยอะไร) The report was written by Tom. ถ้าไม่ใส่ by Tom ก็ไม่รู้ว่าใครเขียน รายงาน แต่บางครั้ง ถ้าไม่ต้องการเน้นผู้กระทำ หรือผู้กระทำไม่สำคัญ ก็ไม่จำเป็นต้องระบุลงไป เช่น English is spoken all over the world. (ไม่จำเป็นต้องต่อท้ายประโยคว่า by people) My ring has been stolen. (ไม่จำเป็นต้องเติม by someone เข้าข้างท้ายประโยค) The laws must be obeyed. (ไม่ต้องเติม by everyone ข้างท้าย) Dinner is cooked. (ถ้าผู้กระทำเป็นคำสรรพนาม เช่น by her / him ก็ไม่จำเป็นต้องใส่เช่นกัน) นอกจากนั้นไม่ใช่ Passive Voice ทุกประโยคที่ต้องใส่คำว่า by เสมอไป อาจใช้ at, in, of, with ก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นกับลักษณะพิเศษของกริยานั้น เช่น He was asked of a lot of questions by the police. I am pleased at (with) your progress. The workers were killed in the fire. The hill is covered with snow.
2. ประโยคที่มีกรรม 2 ตัว กรรมตรง (Direct Object) = สิ่งของ และ กรรมรอง (Indirect Object) = คน เมื่อมี กรรม 2 ตัว เวลาเปลี่ยนเป็น passive voice นิยมเอา "คน" เป็นประธาน แต่ถ้าเอา "สิ่งของ" เป็นประธานก็ได้ แต่ต้องใส่บุพบท to หน้า "คน" เช่น Active: Dome gives me a flower. Passive: I am given a flower by Dome. หรือ A flower is given to me by Dome. ประโยค Passive voice มีครบทั้ง 12 tense ซึ่งแต่ละ tense ก็จะมีรูปร่างหน้าตาโครงสร้างที่แตกต่างกันออกไป โดยมีการปรับจาก โครงสร้างหลักของ passive voice คือ S + Verb to be + V3 โครงสร้าง passive voice ในแต่ละ tense มีดังนี้ค่ะ 1. Present simple tense Active: S + V1 Passive: S + is / am / are + V3 ตัวอย่างเช่น Active: Sarah cooks dinner. Passive: Dinner is cooked by Sarah. 2. Present continuous tense Active: S + V. to be + Ving Passive: S + is / am / are + being + V3 Active: Sarah is cooking dinner. Passive: Dinner is being cooked by Sarah. 3. Present perfect tense Active: S + have / has + V3 Passive: S + have / has + been + V3 Active: Sarah has cooked dinner.
โทรศัพท์รุ่นใหม่ถูกขายหมดก่อนที่ฉันจะไปถึงเสียอีก 8. Past perfect continuous (เราไม่นิยมใช้ passive voice ใน past perfect continuous) โครงสร้าง S + had + been + being + V3 A flying object had been being observed for over an hour last night. มีวัตถุบินได้ถูกสังเกตเห็นเป็นระยะเวลากว่าชั่วโมงในคืนที่ผ่านมา 9. Future simple โครงสร้าง S + will + be + V3 The product photos will be uploaded to the company website. รูปภาพสินค้าจะถูกอัพโหลดไปยังเว็บไซต์ของบริษัท I will be promoted to manager this year. ฉันจะถูกเลื่อนขั้นให้เป็นผู้จัดการในปีนี้ All customers will be given discount coupons this season. ลูกค้าทุกคนจะถูกให้คูปองส่วนลดในฤดูกาลนี้ 10. Future continuous (เราไม่นิยมใช้ passive voice ใน future continuous) โครงสร้าง S + will + be + being + V3 Plants all across Thailand will be being built over the course of the next eight years. โรงงานทั่วประเทศไทยจะถูกสร้างขึ้นภายในระยะเวลาแปดปีต่อจากนี้ 11. Future perfect โครงสร้าง S + will + have + been + V3 The experiment will have been completed by next year.
Passive Voice คืออะไร มันใช้ยังไงอ่ะ ตอบคำถามแรกแบบง่ายๆก่อนนะว่า " passive voice" คือ โครงสร้างของประโยคที่เน้นประธานเป็นผู้ถูกกระทำ ไม่ใช่ประธานเป็นผู้กระทำ OMG! แค่คำนิยามของมันก็งงแล้ว ถ้างั้นเราจะมาเรียนรู้ "ความหมาย หลักการใช้ โครงสร้าง และตัวอย่างประโยคให้เคลียร์ๆกันไปเลยดีกว่านะครับ Passive Voice คืออะไร ก่อนตอบคำถามว่า passive voice คืออะไรนั้น เราต้องทำความเข้าใจโครงสร้าง หรือองค์ประกอบของประโยคกันก่อนนะครับ ถ้าเราเรียนในห้องเรียนคุณครูก็จะบอกว่า โครงสร้างประโยคประกอบไปด้วย 3 ส่วนดังนี้ ประธาน กริยา กรรรม ประธาน คือ ผู้กระทำ กริยา คือ การกระทำ กรรม คือ ผู้ถูกกระทำ ตัวอย่างประโยค เช่น ฉัน กิน ข้าว / I eat rice.
10. Future continuous tense Active: S + will + be + Ving Passive: S + will + be + being + V3 Active: Sarah will be cooking dinner. Passive: Dinner will be being cooked by Sarah. 11. Future perfect tense Active: S + will + have + V3 Passive: S + will + have been + V3 Active: Sarah will have cooked dinner. Passive: Dinner will have been cooked by Sarah. 12. Future perfect continuous tense Active: S + will have + been + Ving Passive: S + will have + been + being + V3 Active: Sarah will have been cooking dinner. Passive: Dinner will have been being cooked by Sarah. ในประโยคนี้ I have warned you. กับ I have been warned. นั้นมีความหมายต่างกันอย่างสิ้นเชิง ถึงแม้โครงสร้างมันจะดูเกือบเหมือนกัน ประโยคแรกเป็นโครงสร้าง active voice ของ present perfect tense แปลว่า "ฉันเตือนคุณแล้ว" แต่ประโยคที่สองเป็นโครงสร้าง passive voice ของ present perfect tense เช่นเดียวกัน แปลว่า "ฉันถูกเตือน" ซึ่งถ้าเราแยกโครงสร้างระหว่าง active และ passive voice ไม่ออกจะทำให้เราแปลความหมายผิดเพี้ยนไปได้ source: pasaangkit ร่วมแสดงความคิดเห็นกันจ้า...
เขา เอเวอเร็สต์ ถูก ปีน ครั้งแรก ใน ปี 1953 (ใครปีนไม่เน้น เน้นว่าทำสำเร็จตอนไหน) หลักการใช้ Passive Voice คือ ใช้เน้นผู้ถูกกระทำ ไม่เน้นผู้กระทำนั่นเอง โครงสร้าง passive voice * คำเตือน การเรียนรู้หัวข้อ passive voice คุณต้องเข้าใจเรื่อง 12 Tense มาแล้วพอสมควร เพราะหัวข้อนี้เป็นการต่อยอดจากเรื่อง Tense นะครับ ⇒ สรุป Tense 12 ไม่ใช่อะไรหรอกครับ ถ้าไม่เข้าใจเรื่อง Tense แต่มาเรียนหัวข้อนี้มันก็จะซุปเปอร์ งง….
Passive voice หรือรูปประโยคที่ประธานเป็นผู้ถูกกระทำ ถือเป็นอีกหัวข้อนึงในภาษาอังกฤษที่หลายๆคนมักจะสับสน สำหรับใครที่ยังไม่แม่นเรื่อง passive voice ในบทความนี้ ชิววี่ก็ได้เรียบเรียงเนื้อหามาให้ได้เรียนรู้กันแบบง่ายๆแล้ว ทั้งนิยาม หลักการใช้ และตัวอย่างประโยคทั้ง 12 tense เอาล่ะ ถ้าเพื่อนๆพร้อมแล้ว เราไปดูกันเลย Passive voice คืออะไร Passive voice คือรูปประโยคที่ประธานเป็นผู้ถูกกระทำ ซึ่งจะใช้ "verb to be + verb ช่อง 3" แทน verb ปกติ ยกตัวอย่างเช่น He is called a genius. เขาถูกเรียกว่าอัจฉริยะ ในประโยคตัวอย่างนี้ ประธานไม่ได้เป็นผู้เรียก แต่เป็นผู้ที่ถูกคนอื่นเรียก ว่าเป็นอัจฉริยะ เราจึงใช้ passive voice Passive voice จะเป็นรูปประโยคที่ตรงกันข้ามกับ active voice ซึ่ง active voice นั้นก็คือรูปประโยคปกติทั่วไป ที่ประธานเป็นผู้กระทำ อย่างเช่น He calls Joe a genius. เขาเรียกโจว่าอัจฉริยะ ตารางเปรียบเทียบ active voice และ passive voice รายการ Active voice Passive voice ประธาน (subject) เป็นผู้กระทำ เป็นผู้ถูกกระทำ คำกริยา (verb) verb ตามรูปประโยคที่ใช้ verb to be ตามรูปประโยคที่ใช้ + verb ช่อง 3 ตัวอย่างประโยค She feeds her cat every day.
questioned Future Perfect will have + been By next June, the tests will have been completed. completed *Future Perfect Continuous will have + been + being By tomorrow, the experiment will have been being conducted for 5 hours. conducted ข้อสังเกต Tense ที่มีเครื่องหมาย * ทั้ง 4 tense ไม่เป็นที่นิยมใช้ เพราะยาวและเยิ่นเย้อมากเกินไป ตารางการกระจายกริยาแบบ Passive Voice (กรรมวาจก) กับกริยาช่วย Modal ต่างๆ Modal Verbs may, might can, could must, haveto ought to used to etc. + be + Past Participle V3 ข้อควรระวังในการใช้รูปประโยคแบบ passive ถ้าต้องการใช้ Passive Voice ในรูปประโยคคำถามที่มี Question Words ก็วาง Question Words ไว้หน้าประโยคเหมือนในรูป Active Voice ยกเว้นคำว่า Who ให้เปลี่ยนเป็น By Whom เช่น What will I be taught by you? -> What will you teach me? Where was the kitten seen? ->Were did (someone) see the kitten? By whom can it be done? -> Who can do it? ถ้าเป็นประโยคคำสั่งหรือประโยคคำถาม จะมีรูปเช่น Let the bell be rung มาจาก Ring the bell. Let the boy not be blamed มาจาก Don't blame the boy.
เขาถูกลงโทษ โดยครูของเขาเมื่อ 2 – 3 วันก่อน The articles were read by most students. บทความถูกอ่าน โดยนักเรียนส่วนใหญ่ The most valuable ring was stolen. (by someone) แหวนวงที่มีราคามากที่สุดถูกขโมย ไป (ไม่ต้องระบุผู้กระทำเพราะไม่รู้แน่ชัด) แต่ He was loved by his friends. เขาได้รับความรักจากเพื่อน ๆ ของเขา (เราไม่พูดว่า เขาถูกรัก) Mrs. Brown was promoted. (by someone) นางบราวน์ได้รับการเลื่อนตำแหน่ง (ไม่ได้ระบุว่าโดยใคร แต่น่าจะสันนิษฐานได้เองว่าจากผู้มีตำแหน่งสูงกว่าตัวบางบราวน์เอง) The man was named. The Greatest Inventor (by someone) ผู้ชายคนนั้นได้รับกาขนานนามว่าเป็น นักประดิษฐ์ผู้ยิ่งใหญ่ (น่าจะเป็นจากคนที่พิจารณาเรื่องนี้ หรืออาจจากคนทั่ว ๆ ไปก็ได้) วิธีเปลี่ยนประโยค active ให้เป็นประโยค passive ใน tense และ กริยาช่วย Modalต่างๆ ในลำดับต่อไปนี้ก็มาถึงจุดสำคัญอีกประการหนึ่งคือ ไม่ว่าในประโยคหนึ่ง ๆ นั้น ประธานจะเป็นผู้กระทำ หรือถูกกระทำ 2. จะระบุผู้กระทำ (by someone) หรือไม่ก็ตาม โครงสร้างแบบ Passive Voice ก็ต้องระบุกาลเวลาของกริยา (tense) ด้วยเหมือนกับในประโยคภาษาอังกฤษทั่ว ๆ ไป รูปของ Active Voice คือ S + V รูปของ Passive Voice คือ S + V to be + V. 3 โครงสร้าง Verb to be + V. 3 (Past Participle) จะไม่เป็นปัญหาเลยถ้า นักเรียนสามารถท่องจำกริยาช่องที่ 3 ได้ 2.